EN

โครงสร้างการถือหุ้นและธุรกิจ

ดูรูปใหญ่

โครงสร้างธุรกิจ

ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง กำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ได้แก่ โรงกลั่นพระโขนง ที่ได้ปรับเป็น High Value Specialty Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ Low Emission และโรงกลั่นศรีราชา ตั้งอยู่ในตำแหน่งสำคัญด้านยุทธศาสตร์ ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

บริษัท BCP Trading Pte. Ltd.
บริษัท BCP Trading Pte. Ltd. (BCPT) จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ โดยมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านดอลลาร์ สรอ. และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100

บริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด
บริษัท กรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ จำกัด (BFPL) จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิงและโลจิสติกส์ และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ปัจจุบันดำเนินกิจการบริการจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดิน ซึ่งท่อขนส่งน้ำมันเป็นชนิดที่สามารถส่งน้ำมันได้หลายชนิด (Multi Product Pipeline) โดยมีจุดเริ่มต้นของท่อที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก เดินท่อเลียบแนวพื้นที่ทางรถไฟไปยังคลังน้ำมันบริเวณช่องนนทรี ต่อไปยังคลังน้ำมันที่สนามบินดอนเมือง และต่อไปยังที่คลังน้ำมันที่อำเภอบางปะอินของบริษัทฯ ทั้งนี้ ได้มีการเชื่อมต่อแนวท่อบริเวณมักกะสันไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อจัดส่งน้ำมันอากาศยาน

บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF)
บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ดำเนินธุรกิจจัดหาวัตถุดิบ ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel - SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว

บริษัท เจนเนอรัล เอนเนอร์ยี่ แมนนิ่ง จำกัด
บริษัท เจนเนอรัล เอนเนอร์ยี่ แมนนิ่ง จำกัด (GEM) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการสรรหาและบริหารจัดการบุคลากร

บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด
บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 4.78 จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจการบริการจัดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบท่อส่งน้ำมันใต้พื้นดิน ซึ่งท่อขนส่งน้ำมันเป็นชนิดที่สามารถส่งน้ำมันได้หลายชนิด (Multi Product Pipeline) โดยมีจุดเริ่มต้นของท่อที่คลังน้ำมันที่อำเภอบางปะอินของบริษัทฯ ไปทางภาคเหนือที่คลังนํ้ามันพิจิตร และคลังน้ำมันลำปาง

ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 2,000 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลาย และนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ

บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด
บริษัท บางจากกรีนเนท จำกัด (BGN) มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49 จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงดำเนินกิจการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ในร้านใบจาก

บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด
บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) มีทุนจดทะเบียน 1,500 ล้านบาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 เพื่อประกอบธุรกิจร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีร้านกาแฟอินทนิล “Inthanin” จำนวนกว่า 1,002 แห่ง (ณ 31 ธันวาคม 2565)

บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
บริษัท ออมสุข วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด มีทุนจดทะเบียน 126 ล้านบาท และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.4 จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจซื้อสินค้าเกษตร และพืชอินทรีย์อื่น ๆ เพื่อแปรรูป ทำการตลาด จัดจำหน่าย และวิจัยพัฒนา

บริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยถือหุ้นร้อยละ 57.19 ในบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อประกอบธุรกิจและลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสีเขียวรูปแบบต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็นต้น

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) มีทุนจดทะเบียน 16,508,500,000 บาท จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจและลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสีเขียวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ณ สิ้นปี 2565 BCPG มีกำลังการผลิตรวม 390.8 เมกะวัตต์ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) (BCPG) ได้ลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัท วีอาร์บี เอนเนอร์ยี่ (VRB Energy) ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Utility-Scale Energy Storage System) ประเภทวานาเดียมรีดอกซ์โฟลว์ (Vanadium Redox Flow) วงเงิน 24 ล้านดอลลาร์ สรอ. และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Vietnam Electricity โดยเป็นการซื้อขายไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 600 เมกะวัตต์ ที่ชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม อายุสัญญา 25 ปี

ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ สนับสนุนเกษตรกร และรักษาสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ส่งเสริมสนับสนุนการนำเอทานอลและไบโอดีเซลมาผสมกับน้ำมันเบนซินและดีเซล เป็นผลิตภัณฑ์แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลเกรดต่าง ๆ โดยบริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตลอดจนได้ขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Valued Products (HVP)) ผ่านการถือหุ้นในบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI)

บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน)
บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) จัดตั้งขึ้นโดยการควบกิจการระหว่างบริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด (BBH) (บริษัทย่อยของบริษัทฯ) และบริษัท เคเอสแอลจีไอ จำกัด (KSLGI) (บริษัทย่อยของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)) มีทุนจดทะเบียน 2,532 ล้านบาท และในเดือนเมษายน 2561 ได้จดทะเบียนแปลงสภาพจากบริษัทจำกัดเป็น บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) และมีการจดทะเบียนเพิ่มทุนเป็น 3,615 ล้านบาท โดยในปี 2565 ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 433.20 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 2.50 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ BCP และ KSL เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นและเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยได้เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2565 ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ ถือหุ้นใน BBGI สัดส่วนร้อยละ 45 ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมทั้งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยบริษัทย่อยของ BBGI มีกำลังการผลิตรวม 1,600,000 ลิตรต่อวัน แบ่งเป็นกำลังการผลิตเอทานอล 600,000 ลิตรต่อวัน และไบโอดีเซล 1,000,000 ลิตรต่อวัน โดยมีบริษัทย่อยและร่วม ดังนี้

บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด
บริษัท บีบีจีไอ ไบโอดีเซล จำกัด หรือ BBGI-BI มีทุนจดทะเบียน 281.5 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 70 จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจผลิตไบโอดีเซลโดยใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบหลัก โดยพื้นที่โรงงานตั้งอยู่ติดกับคลังน้ำมันบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,000,000 ลิตรต่อวัน

บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด
บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBGI-PS) มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 85 ตั้งอยู่ที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ประกอบธุรกิจผลิตเอทานอล โดยใช้มันสำปะหลังสด มันสำปะหลังเส้น น้ำตาลทรายและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลัก มีกำลังการผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน

บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน)
บริษัท บีบีจีไอ ไบโอเอทานอล จำกัด หรือ BBGI-NP/BP มีทุนจดทะเบียน 610 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลโดยใช้กากน้ำตาล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาล มีโรงงานผลิตเอทานอลจำนวน 2 แห่ง ในอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น กำลังการผลิต 150,000 ลิตรต่อวัน ปัจจุบันกำลังปรับปรุงโรงงาน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 200,000 ลิตรต่อวัน และอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี กำลังการผลิต 300,000 ลิตรต่อวัน

บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (BUP)
บริษัท บีบีจีไอ ยูทิลิตี้ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ BUP มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 จัดตั้งขึ้น เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานชีวภาพ ไฟฟ้า และสาธารณูปโภค

บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด
บริษัท วิน อินกรีเดียนส์ จำกัด มีทุนจดทะเบียน 320 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออกผลิตภัณฑ์ชีวภาพและเคมีภัณฑ์ทุกประเภท

บริษัท ไบโอม จำกัด

มีทุนจดทะเบียน 69.375 ล้านบาท BBGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของไบโอม ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจด้านการวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ โดยเฉพาะงานวิจัยผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่ใช้เทคโนโลยี Synthetic Biology (ชีววิทยาสังเคราะห์)

สำหรับบริษัทอื่นที่ลงทุน ได้แก่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน)


บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน)
บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) (UBE) มีทุนจดทะเบียน 3,914.29 ล้านบาท ซึ่งมี BBGI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 12.39 ตั้งอยู่ที่ อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบธุรกิจผลิตเอทานอล โดยสามารถใช้มันสำปะหลังสด มันเส้น และกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบ มีกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) ยังมีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจด้านการแปรรูปมันสำปะหลังเป็นแป้ง และมีโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพที่ได้จากการบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตแป้งและเอทานอล

กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ เป็น 1 ใน 5 ธุรกิจหลัก ซึ่งจะดูแลและพัฒนาธุรกิจต้นน้ำของปิโตรเลียม ธุรกิจแร่ลิเทียม และธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท บีซีพีอาร์ จำกัด ขึ้นในประเทศไทย และ BCPR Pte. Ltd. ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บริษัท บีทีเอสจี จำกัด ขึ้นในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas (LNG)) และได้ จัดตั้งบริษัท BCP Innovation Pte. Ltd. ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจแร่ลิเทียม และธุรกิจ Startup

BCP Innovation Pte. Ltd.
BCP Innovation Pte. Ltd. (BCPI) มีทุนจดทะเบียน 53.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการและการลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับแร่ลิเทียม และธุรกิจ Startup ต่างๆ ปัจจุบัน BCPI มีสิทธิในการซื้อลิเทียมตามสัญญา Lithium Purchase Agreement กับ บริษัท Lithium Americas Corp. สูงสุด 6,000 ตันต่อปี จากโครงการ Cauchari-Olaroz และได้ลงทุนในธุรกิจ Startup อีกหลายโครงการ

บริษัท บีซีพีอาร์ จำกัด
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท บีซีพีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทย ปัจจุบัน มีทุนจดทะเบียน 661 ล้านบาท (แบ่งเป็น 6.61 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทถือหุ้นร้อยละ 100) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการและลงทุนธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติ และได้เข้าลงทุนใน BCPR Pte. Ltd. ซึ่งจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมเข้าลงทุนใน OKEA ASA ที่ดำเนินการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์

BCPR Pte. Ltd.
BCPR Pte. Ltd. จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 มีทุนจดทะเบียน 18.2 ล้านดอลลาร์ สรอ. และบริษัท บีซีพีอาร์ จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ดำเนินกิจการและการลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และทรัพยากรธรรมชาติในต่างประเทศ ปัจจุบัน BCPR Pte. Ltd. ได้เข้าลงทุนในบริษัท OKEA ASA ที่ดำเนินการสำรวจ พัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์

OKEA ASA
OKEA ASA เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศนอร์เวย์ ดำเนินการสำรวจ พัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ โดย BCPR Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ปัจจุบันถือหุ้นใน OKEA ASA คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 45.46 โดย OKEA ASA มีการผลิตแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ Draugen, Gjoa, Ivar Aasen และ Yme (เริ่มการผลิตในไตรมาส 4 ปี 2564) ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือ Brage และ Nova ในไตรมาส 2 ปี 2565 และถือสิทธิ์หรืออยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติอีกหลายแปลงในประเทศนอร์เวย์ ได้แก่ โครงการ Hasselmus โครงการ Hamlet และโครงการ Aurora นอกจากนี้ OKEA ASA ยังเป็นผู้ดำเนินการ (Operator) ให้กับอีกหลายแปลง

บริษัท บีทีเอสจี จำกัด (BTSG)
บริษัท บีทีเอสจี จำกัด (BTSG) มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ประกอบธุรกิจจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ไทยสเปเชี่ยลแก๊ส จำกัด
บริษัท ไทยสเปเชี่ยลแก๊ส จำกัด (TSG) มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 5 ประกอบธุรกิจจัดหา บรรจุ จำหน่ายก๊าซอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้งอุปกรณ์ ระบบทางวิศวกรรม ตลอดจนจำหน่ายเครื่องมือ อุปกรณ์ และให้บริการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ถังก๊าซอุตสาหกรรม อีกด้วย

เพื่อมุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำในเอเชีย บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในด้านนวัตกรรมพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานสะอาดไฮโดรเจน (Hydrogen Economy) และเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอนและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (Carbon Capture and Carbon Utilization) และการต่อยอดผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-based Products) ที่เดิมเน้นการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย (Venture Capital) เพื่อประกอบกิจการเงินร่วมลงทุน และ/หรือลงทุนในธุรกิจ Startup ในประเทศไทยที่ประกอบกิจการใน 10 กิจการที่รัฐต้องการสนับสนุนตามกฎหมาย

บริษัท บีซีวี เอ็นเนอร์ยี จำกัด
บริษัท บีซีวี เอ็นเนอร์ยี จำกัด (BCVE) มีทุนจดทะเบียน 1,020 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน เพื่อลงทุนในธุรกิจ Startup ในประเทศไทยที่ประกอบกิจการด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน

บริษัท บีซีวี อินโนเวชั่น จำกัด
บริษัท บีซีวี อินโนเวชั่น จำกัด (BCVI) มีทุนจดทะเบียน 65.1 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน เพื่อลงทุนในธุรกิจ Startup ในประเทศไทยที่ประกอบกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับนวัตกรรม

บริษัท วินโนหนี้ จำกัด
บริษัท วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie) มีทุนจดทะเบียน 90.1 ล้านบาท ซึ่งมี BCVI ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 55.49 โดย Winnonie ประกอบธุรกิจให้บริการรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า เปลี่ยนถ่ายแบตเตอรี่ รวมถึงธุรกิจต่อยอดอื่นๆ ในอนาคต สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็นผู้นำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวของบริษัทฯ

Transitus Energy Ltd.
บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจน ในแถบยุโรปมีทุนจดทะเบียน 12.3 ล้านบาท

บริษัท ดาต้า คาเฟ่ จำกัด
บริษัท ดาต้า คาเฟ่ จำกัด (DC) มีทุนจดทะเบียน 12.3 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 35 ประกอบธุรกิจธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจทุกรูปแบบ และให้บริการบุคลากรด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศแก่องค์กรธุรกิจต่างๆ อาทิ ธุรกิจโทรคมนาคม สถาบันการเงิน และธุรกิจพลังงาน

บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด
บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20 ประกอบธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก
บริษัท บางจาก ศูนย์บริหารเงิน จำกัด
บริษัท บางจาก ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (BCTC) มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ประกอบกิจการเป็นศูนย์บริหารเงิน (Treasury Center: TC) และศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center: IBC)