โครงสร้างการถือหุ้นและธุรกิจ
ดูรูปใหญ่โครงสร้างธุรกิจ
ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง กำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ได้แก่ โรงกลั่นพระโขนง ที่ได้ปรับเป็น High Value Specialty Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ Low Emission และโรงกลั่นศรีราชา ตั้งอยู่ในตำแหน่งสำคัญด้านยุทธศาสตร์ ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 2,000 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลาย และนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ
บริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยถือหุ้นร้อยละ 57.19 ในบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 เพื่อประกอบธุรกิจและลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสีเขียวรูปแบบต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม เป็นต้น
ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการขาดดุลการค้าจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ สนับสนุนเกษตรกร และรักษาสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้ส่งเสริมสนับสนุนการนำเอทานอลและไบโอดีเซลมาผสมกับน้ำมันเบนซินและดีเซล เป็นผลิตภัณฑ์แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซลเกรดต่าง ๆ โดยบริษัทฯ ลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ตลอดจนได้ขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High Valued Products (HVP)) ผ่านการถือหุ้นในบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI)
มีทุนจดทะเบียน 69.375 ล้านบาท BBGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของไบโอม ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจด้านการวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ โดยเฉพาะงานวิจัยผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่ใช้เทคโนโลยี Synthetic Biology (ชีววิทยาสังเคราะห์)
สำหรับบริษัทอื่นที่ลงทุน ได้แก่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน)
กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ เป็น 1 ใน 5 ธุรกิจหลัก ซึ่งจะดูแลและพัฒนาธุรกิจต้นน้ำของปิโตรเลียม ธุรกิจแร่ลิเทียม และธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท บีซีพีอาร์ จำกัด ขึ้นในประเทศไทย และ BCPR Pte. Ltd. ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม บริษัท บีทีเอสจี จำกัด ขึ้นในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas (LNG)) และได้ จัดตั้งบริษัท BCP Innovation Pte. Ltd. ขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อดำเนินธุรกิจแร่ลิเทียม และธุรกิจ Startup
เพื่อมุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำในเอเชีย บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในด้านนวัตกรรมพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานสะอาดไฮโดรเจน (Hydrogen Economy) และเทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอนและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (Carbon Capture and Carbon Utilization) และการต่อยอดผลิตภัณฑ์ชีวภาพ (Bio-based Products) ที่เดิมเน้นการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย (Venture Capital) เพื่อประกอบกิจการเงินร่วมลงทุน และ/หรือลงทุนในธุรกิจ Startup ในประเทศไทยที่ประกอบกิจการใน 10 กิจการที่รัฐต้องการสนับสนุนตามกฎหมาย