27 ตุลาคม 2565
“บางจาก คอร์ปอเรชั่น” ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิต “A” จาก “A-” โดยทริส เรทติ้ง สะท้อนการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจ สถานะแข็งแกร่ง
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการปรับอันดับจาก ทริส เรทติ้ง เพิ่มเครดิตองค์กรขึ้นเป็น “A” จาก “A-” สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทที่ฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่ง
ทริส เรทติ้ง ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” เป็น “A” จาก “A-“ พร้อมทั้งเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของบริษัท บางจากฯ ขึ้นเป็น “BBB+” จาก “BBB” ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตยังคงเป็น “Stable” หรือ “คงที่” ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป อันดับเครดิตที่ปรับสูงขึ้นนี้สะท้อนถึงการฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งของบริษัทบางจากฯ จากขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น การบูรณาการในการทำงานระหว่างธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาด สถานะทางการตลาดอันแข็งแกร่งในตลาดค้าปลีกน้ำมัน และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนที่หลากหลาย โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและการปรับตัวให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นของธุรกิจโรงกลั่น การฟื้นตัวของราคาน้ำมัน ปริมาณการขายผ่านสถานีบริการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามตลาด รวมถึงการลงทุนในธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติผ่าน OKEA ASA ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันในประเทศนอร์เวย์ มี EBITDA อยู่ในระดับที่สูงมากและมีสัดส่วนกำไรค่อนข้างมากจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมากในขณะที่ OKEA ยังคงรักษาระดับค่าใช้จ่ายดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำ
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าบริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บางจากฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรเพิ่มสูงขึ้นเป็น “A” จาก “A-” บนพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทบางจากที่มีการปรับตัวและฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากภาวะวิกฤติโควิดในหลายๆ ด้าน อาทิ ธุรกิจโรงกลั่นที่หันมาเน้น Niche products ส่งผลเชิงบวกต่อค่าการกลั่น ยอดขายในตลาดค้าปลีกน้ำมันน้ำมันผ่านสถานีบริการที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง กำไรจากธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งลงทุนผ่านบริษัท OKEA ASA การขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจพลังงาน ตลอดจนสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงสถานะสภาพคล่องทางการเงินเป็นที่น่า เชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนผลสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจอย่างมีสมดุล สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จนได้รับการเพิ่มอันดับความเชื่อมั่นในครั้งนี้”