EN

17 มกราคม 2568

WRONG DI: กล้าที่จะลอง

เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกองค์กร แต่การสร้างพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่เรื่องง่าย บางจากฯ พบว่าความท้าทายนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งความกลัวความล้มเหลว การขาดเวลา และความไม่มั่นใจในไอเดียของตนเอง

มากกว่าโครงการ คือการสะท้อนค่านิยมองค์กร

จากความท้าทายเหล่านี้ จึงเกิดเป็นโครงการ “WRONG DI” (ลองดิ) ที่ชื่อภาษาไทย ลองดิ แปลตรงๆ ว่า ลองดูสิ แต่ภาษาอังกฤษนั้นแฝงความหมาย “Wrong” (ผิดพลาด) และ “Di” (Delivery – การส่งมอบ) ว่าโครงการนี้ไม่เน้นที่ผลลัพธ์สำเร็จตั้งแต่แรก แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองคิด ลองทำ โดยไม่ต้องกลัวความผิดพลาด เพราะการลองคือก้าวแรกของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เสมอ

โครงการนี้ไม่ได้นำผลลัพธ์ความสำเร็จมาเป็นเป้าหมายตั้งต้น แต่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและการลงมือทำจริง ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของบางจากฯ หรือ I AM BCP ที่แฝงอยู่ในทุกขั้นตอนของ WRONG DI

จากลองคิด ลองดู สู่ลองกัน

ชื่อ "WRONG DI" เป็นการเล่นคำที่ผสานความหมายระหว่างคำว่า "Wrong" หรือความผิดพลาด กับคำว่า "Di" ที่ย่อมาจาก "Delivery" ซึ่งหมายถึงการส่งมอบ โดยแก่นแท้ของโครงการนี้ คือการเชิญชวนให้พนักงานทุกระดับในองค์กร กล้าที่จะลองผิดลองถูก ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะทุกก้าวของการลองคือโอกาสในการเรียนรู้ และทุกความผิดพลาดสามารถนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตได้

โครงการ WRONG DI ดำเนินมาจนถึงปีที่สอง และได้สร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคนในการนำเสนอไอเดียที่อาจเป็นเพียงความคิดเล็กๆ แต่มีศักยภาพในการเติบโตเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต กระบวนการของโครงการถูกออกแบบอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มต้นจากระยะ "WRONG Kid ลองคิด” ซึ่งเป็นการเปิดรับไอเดียจากพนักงานทั่วทั้งองค์กร โดยมีหมวดหมู่ชัดเจน ได้แก่ นวัตกรรมสีเขียว (Green Innovation) ธุรกิจค้าปลีกและประสบการณ์ลูกค้า (Retail Business and Customer Experience) และนวัตกรรมเพื่อสังคม (Social Innovation Society) ระยะนี้สร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานได้กล้าคิด กล้าส่งไอเดีย โดยไม่ต้องกังวลถึงความสมบูรณ์แบบ

เมื่อไอเดียถูกคัดเลือกเข้าสู่ระยะที่สอง หรือ "WRONG Do ลองดู" ผู้เข้าร่วมจะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อสำคัญ เช่น Design Thinking และ Business Canvas รวมถึงการเข้าใจลูกค้าผ่าน Customer Empathy การอบรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะในการคิดเชิงนวัตกรรม แต่ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจมิติทางธุรกิจและความเป็นไปได้ในการทำให้ไอเดียกลายเป็นจริง หลังจากผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น ไอเดียที่ผ่านการขัดเกลาจะถูกนำไปพัฒนาในระยะสุดท้าย "WRONG Gun ลองกัน" ซึ่งเป็นเวทีที่พนักงานจะได้นำเสนอแผนธุรกิจที่ผ่านการกลั่นกรองต่อคณะกรรมการ

3 ทีมผู้กล้าคว้าชัยชนะ

ในปีที่ผ่านมา มี 3 โครงการที่โดดเด่นจนได้รับเลือกให้เป็นทีมผู้ชนะ

"Green Lubricants"

หรือการผลิตน้ำมันหล่อลื่นหม้อแปลงไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์ม ทีมนี้เล็งเห็นโอกาสจากตลาดที่กำลังเติบโตในยุคของสมาร์ทซิตี้และรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปลี่ยนวัตถุดิบจากปิโตรเลียมเป็นน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นทรัพยากรที่หาได้ในประเทศ ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนการนำเข้า แต่ยังสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ในตลาดโลก

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
"Emotional AI"

ระบบ AI วิเคราะห์อารมณ์ลูกค้าในร้านกาแฟอินทนิล นำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้เพื่อทำความเข้าใจอารมณ์และพฤติกรรมของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
"Carbon Markets Center"

ต่อยอดจาก Carbon Markets Club สู่การเป็นศูนย์กลางการให้บริการข้อมูลและการค้าคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจร โดยเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น การให้คำปรึกษา การรับรอง และการจัดทำรายงานเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต แนวคิดนี้ตอบสนองต่อเทรนด์โลกที่กำลังมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าผลงานที่ได้จากโครงการนี้ คือบทเรียนที่ผู้เข้าร่วมได้รับ หลายคนสะท้อนถึงการได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ ได้มุมมองที่แตกต่างจากเดิม และได้ลงมือทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน สำหรับบางคน โครงการนี้เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ฉันทำไม่ได้” ให้กลายเป็น “ฉันทำได้”

WRONG DI จึงไม่ใช่แค่เวทีของการแข่งขัน แต่เป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ เติมเต็มศักยภาพของพนักงานด้วยพลังแห่งการ “ลอง” ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันที่ช่วยให้บางจากฯ เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการกล้าลอง กล้าผิด กล้าแก้ไข เพื่อส่งมอบนวัตกรรมสู่อนาคต