EN

25 เมษายน 2568

หน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน Neat SAF แห่งแรกของประเทศไทย

จากผู้นำพลังงานทดแทน สู่ผู้นำพลังงานแห่งอนาคต

เมื่อปี พ.ศ. 2507 กรมการพลังงานทหาร กระทรวงกลาโหม ได้เริ่มดำเนินการโรงกลั่นน้ำมัน ที่ตำบลบางจาก อำเภอพระโขนง จังหวัดพระนคร ด้วยการทำสัญญาให้เช่ากับ บริษัท ซัมมิทอินดัสเตรียล คอปอเรชั่น (ปานามา) เป็นเวลา 15 ปี และเปลี่ยนชื่อเป็น โรงกลั่นน้ำมันทหาร (บางจาก) ในปี พ.ศ. 2525

ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้น เพื่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมไทย

จากธุรกิจกลั่นน้ำมัน บางจากฯ ได้ขยายสู่ธุรกิจการตลาด โดยร่วมมือกับสหกรณ์การเกษตรศรีประจันต์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อตั้ง “ปั๊มสหกรณ์” หรือ “ปั๊มชุมชน” แห่งแรกของไทย ภายใต้โครงการ “น้ำมันแลกข้าว”

ในปี พ.ศ. 2533 เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงน้ำมันคุณภาพดีในราคายุติธรรม และได้รับผลตอบแทนตามหลักสหกรณ์ ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบวิสาหกิจชุมชนแห่งแรกๆ ของไทย และขยายเป็นกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ

ในขณะเดียวกัน บางจากฯ ก็ไม่หยุดนิ่งในการคิดค้นพลังงานทางเลือกใหม่ ๆ โดยในปี พ.ศ. 2543 ได้ริเริ่มโครงการผลิตไบโอดีเซลในสวนจิตรลดา ร่วมกับกรมอู่ทหารเรือ ซึ่งถือเป็นรากฐานของการพัฒนาพลังงานชีวภาพในประเทศไทยอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ยังได้ริเริ่มโครงการรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้ว เพื่อผลิตไบโอดีเซล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และขยายธุรกิจสู่การผลิตเอทานอลในปี พ.ศ. 2559

และในปี พ.ศ. 2568 นี้ บางจากฯ กำลังก้าวสู่อีกหนึ่งบทบาท ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจ Neat SAF รายแรกของประเทศ ต่อยอดจากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการจัดเก็บน้ำมันใช้แล้ว เพื่อผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพด้วยหน่วยผลิต SAF แบบ stand-alone แห่งแรกของประเทศ ในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง เพื่อผลิต Neat SAF 100% จากน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารและวัตถุดิบทางเลือกอื่น ๆ ใช้กระบวนการปรับสภาพวัตถุดิบและแปรสภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตบนแนวทาง BCG Economy

หน่วยผลิตนี้มีกำลังการผลิตเริ่มต้น 1 ล้านลิตรต่อวัน ผลิต Neat SAF 100% จากน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารและวัตถุดิบทางเลือกอื่น ๆ โดยใช้กระบวนการ 2 ขั้นตอน คือการปรับสภาพเบื้องต้น (Pre-treatment) และการแปรสภาพด้วยเทคโนโลยี HEFA (Hydroprocessed Esters and Fatty Acids) กระบวนการผลิตทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบที่ได้รับการรับรองระดับสากลจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต ไปจนถึงการจัดส่ง

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การเร่งลดคาร์บอนจากภาคการบินซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนสูงและลดได้ยาก จึงเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยความร่วมมือและการลงทุนระยะยาว โดย SAF ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม และยังเป็นกลไกสำคัญในการลดคาร์บอนในภาคการบินอย่างมีประสิทธิภาพ

บางจากฯ ได้พัฒนากลไกการรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารผ่านโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” ซึ่งรับซื้อน้ำมันจากครัวเรือน ร้านอาหาร และสถานประกอบการต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิต SAF อย่างถูกต้องและปลอดภัย โครงการนี้ไม่เพียงช่วยดึงน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วออกจากระบบการบริโภค ลดความเสี่ยงทางสุขภาพของประชาชน ยังช่วยลดการทิ้งของเสียลงสู่แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการจัดการของเสียอย่างรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการใช้ SAF อย่างเป็นรูปธรรม โดยผสานความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต และการใช้งานในภาคการบิน ซึ่งจะช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศ และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ร่วมกัน

การเริ่มดำเนินการของหน่วยผลิต Neat SAF จึงไม่เพียงเป็นก้าวย่างสำคัญของบางจากฯ แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรไทยในการพัฒนาพลังงานที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยประสบการณ์ ความร่วมมือ และความเข้าใจในบริบทของประเทศ

จากจุดเริ่มต้นด้วยโรงกลั่นน้ำมันเมื่อปี พ.ศ. 2527 สู่การบุกเบิก SAF ในปีนี้ เส้นทางกว่า 40 ปีของบางจากฯ ที่กำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ไม่ได้สะท้อนเพียงการเติบโตทางธุรกิจ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการพัฒนาพลังงานทางเลือก ที่เป็นรูปธรรม เป็นประโยชน์ต่อสังคมและตอบโจทย์ การเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแท้จริง