EN

02 กรกฎาคม 2564

ทำไมจึงเป็น.. 'บ้านบางจาก'

จะมีสักกี่คนที่เรียกสถานที่ทำงานนั้นว่า "บ้าน"

ความฝันและความสุขของมนุษย์ออฟฟิศ หรือ มนุษย์เงินเดือนนั้นคงไม่พ้นการได้มีตำแหน่งหน้าที่การงานและรายได้ที่มั่นคง มีโอกาสเติบโตในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะสร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเองแล้วยังนำมาซึ่งความสุข เติมเต็มความสมบูรณ์และคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วย สิ่งนี้จึงเป็นเหมือนแรงผลักดันให้กับมนุษย์วัยทำงานทุกคนต่างล้วนทำหน้าที่ของตนเองอย่างดี มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้

ในแต่ละวัน เราต่างเดินทางออกไปทำงาน ในสถานที่ที่เราเรียกว่าที่ทำงานหรือออฟฟิศ ซึ่งก็คืออาคารที่มีโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์สำนักงาน แฟ้มเอกสาร ฯลฯ รวมทั้งมีบุคลากรที่แตกต่างกันในแต่ละวัยและสาขาอาชีพ ที่ทำงานในความคิดของคนทั่วไป ก็คงเป็นเพียงสถานที่ที่เราใช้เวลาอยู่ในช่วงทำงานเป็นกิจวัตรของวัน

แต่จะมีสักกี่คนเรียกสถานที่ทำงานนั้นว่า "บ้าน"... มีสักกี่คนที่รู้สึกว่าคนที่เราพบเจอด้วยภาระหน้าที่ การงาน คือ "ครอบครัว" มากกว่าเพื่อนร่วมงาน....

"ที่บางจากฯ เราเรียกกันว่าบ้านบางจาก" พลอย สาว HR น้องใหม่บางจากฯ อายุงานเพียงปีกว่าๆ เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "มาใหม่ๆ ก็สงสัยเหมือนกันนะ ว่าทำไมเค้าถึงเรียกกันว่าบ้านบางจาก พออยู่ไปๆ ก็รู้เอง บรรยากาศและสังคมที่เราเจอในทุกๆ วัน ทำให้เกิดความรู้สึกว่าที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว มีความเป็นพี่น้องที่ดูแลช่วยเหลือกัน เข้าถึงง่าย คุยกันได้ในทุกเรื่อง รวมทั้งบรรยากาศสถานที่ทำงานที่ร่มรื่น อย่างโรงกลั่นของเรามีสวนร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ มีนกมาอาศัยมากมาย แถมยังมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหลังอีกด้วย ให้ความอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้านเราเอง ในส่วนของตึกสำนักงานใหญ่ก็เป็น smart office ทันสมัยและสะดวกสบาย แต่อบอุ่น ถึงบรรยากาศของ 2 ที่จะต่างกัน แต่พอเดินเข้าไปแล้วรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน สมาชิกนับพันคนที่บางจากฯ เราต่างรู้ว่าทุกคนมี DNA เดียวกันคือการ "เป็นคนดี มีความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น" ด้วยวิถีปฏิบัติเดียวกันนี้เลยทำให้รู้สึกว่า นี่แหละคือคนในครอบครัว เรามีความเหมือนกัน"

เราต่างรู้ว่าทุกคนมี DNA เดียวกันคือการ
"เป็นคนดี มีความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น"

พลอยเคยตั้งคำถามกับ วัฒนธรรมพนักงาน "เป็นคนดี มีความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น" ว่าสิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ยังไง จนได้คำตอบว่า ธุรกิจจะเดินหน้าได้ ถ้าเราเป็นคนดี มีการปลูกฝังความรู้ พัฒนาตัวเอง การจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้ เราต้องแข็งแรงก่อน เราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไร ถ้าวันนี้เรายังไม่แข็งแรง เราจึงต้องทำให้ธุรกิจเราเติบโตและแข็งแรงเพื่อที่เราจะได้มีกำลังไปดูแลคนอื่นหรือสังคมได้ ตรงนี้มันลึกซึ้งมาก เพราะตั้งแต่วันแรกที่พลอยเข้ามาจนถึงปัจจุบัน สัมผัสได้เลยว่าตั้งแต่การทำธุรกิจ ไปจนถึงกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของบางจากฯ พื้นฐานหลักคือการช่วยเหลือผู้อื่น เราคิดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจริงๆ ไม่ใช่แค่การถือป้ายไปมอบของแล้วจบ แต่เรานำความสามารถที่พนักงานของบริษัทเรามีไปทำให้เกิดประโยชน์และช่วยให้ได้มากที่สุด และคิดครอบคลุมเสมอว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง อย่างกิจกรรมขายไข่ช่วยเกษตรกรในช่วงที่ราคาตก (โครงการ "บางจากชวนคนไทยสู้โควิด-19 EP3 "ไข่ปันสุข") มันเป็นการตอกย้ำความเชื่อว่าสิ่งที่ทุกคนบอกว่า ตำนานคือเรื่องจริง นี้มันเป็นจริง เราได้เห็นเหตุการณ์ปัญหาจริง แล้วก็ทุกคนได้ไปช่วยกันทำจริง เนี่ยแหละมันคือความเป็นบางจากฯ

ที่บ้านบางจากแห่งนี้ มีพื้นที่เปิดกว้างเสมอ ในการให้โอกาสเราเรียนรู้และทดลองทำ สิ่งใหม่ๆ ตอนพลอยเข้ามาทำงาน พนักงานที่นี่ไม่ว่าจะเข้ามาทำตำแหน่งอะไรก็จะได้มีประสบการณ์ในการทดลองให้บริการเติมน้ำมันให้ลูกค้า ใส่ชุดพนักงานที่ปั๊มเพื่อให้บริการจริงหรือออกแบบสูตรเครื่องดื่มอินทนิล เป็นต้น ซึ่งทำให้เราได้เห็นภาพจริงของธุรกิจ รวมทั้งได้ลงพื้นที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่บางจากฯ มีโครงการ CSR ครอบคลุมทุกด้าน รวมถึงโอกาสในการเติบโต สร้างธุรกิจ จากการคิดค้นนวัตกรรม หรือ Startup ใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ที่นี่.. มีเวทีให้เราเสมอ ขอแค่เราลงมือทำ

พลอยกับการทดลองทำหน้าที่ต่างๆ ตั้งแต่เข้าทำงานวันแรก
คัดเลือกไข่ไก่ ในกิจกรรม "ไข่ปันสุข" ไข่ทุกฟองต้องผ่านสายตาพลอย ด้วยความตั้งใจส่งมอบไข่ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า

"บ้านบางจาก มีความอบอุ่น เป็นกันเอง เราสามารถเรียก CEO หรือผู้บริหารระดับสูงว่า "พี่" ได้ ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์ธุรกิจ oil and gas ที่คนส่วนใหญ่มองว่ามีระบบการทำงานที่ hierarchy สูงมาก แต่มันเป็นแค่กับเรื่องของงานเท่านั้น เพราะเราเป็นบริษัทพลังงาน มาตรฐานและความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากเกิดปัญหาขึ้นมามันไม่ได้จะส่งผลแค่องค์กร แต่กระทบถึงสังคมภายนอกด้วย จึงต้องมีการปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการและลำดับชั้น แต่ในด้านความสัมพันธ์ พลอยบอกได้เลยว่าที่นี่ให้ความรู้สึกเป็นบ้านจริงๆ ประตูพี่ๆ ทุกห้องเปิดเสมอ ขอแค่เราเดินเข้าไปหา พี่ๆ ยินดีจะช่วยเหลือและให้ความรู้ บอกเล่า และสอนสิ่งดีๆ ให้กับเรา เหมือนกับอยู่ที่บ้าน และที่นี่ ถ้าไม่ต้องประชุมกับแขกภายนอก เราสามารถใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ มาทำงานได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารหรือพนักงาน และด้วยความที่มี เพื่อนดี สังคมดี ทุกคนมีความเป็นครอบครัว อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง มันเลยทำให้การมาทำงานทุกวันมีความสุข

ประตูพี่ๆ ทุกห้องเปิดเสมอ ขอแค่เราเดินเข้าไปหา พี่ๆ ยินดีจะช่วยเหลือและให้ความรู้ บอกเล่า และสอนสิ่งดีๆ ให้กับเรา เหมือนกับอยู่ที่บ้าน

"ถ้าพูดถึงกิจกรรม อย่างวันสงกรานต์ ก็ยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว เราจัดงานกันอย่างอบอุ่นเรียบง่าย มีพี่ๆ ผู้บริหารมานั่งให้น้องๆ รดน้ำขอพร ซึ่งมันเป็นกิจกรรมที่เหมือนเราทำกับครอบครัวของเราเอง หรืออย่างกิจกรรมวันเกิดพนักงาน หรือโอกาสเลื่อนตำแหน่ง พี่ๆ ผู้บริหารก็ยินดีจัดสรรเวลาลงมาพูดคุย มอบของขวัญและ ร่วมรับประทานอาหารกับพวกเรา เป็นการให้ความสำคัญต่อกัน แม้กระทั่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็มีการจัดสรรพนักงานกลุ่มหนึ่งเข้าไปพักในสถานที่ที่บริษัทจัดให้ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า safe house เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน พร้อมส่งกำลังใจและความสุขผ่านข้อความและสิ่งของพิเศษ ซึ่งแม้เป็นสิ่งเล็กๆ แต่แสดงออกถึงความห่วงใยและใส่ใจ เราทำแบบนี้ เพราะพื้นฐานของคำว่าครอบครัวนั่นเอง"

ในส่วนของค่าตอบแทน พลอยคิดว่าไม่อยากให้มองแค่ตัวเงินเดือนแล้วเอาไปเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ เพราะสวัสดิการที่บริษัทจัดเตรียมไว้ให้ มีความหลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งคนโสด คนมีครอบครัว และคนรุ่นใหม่ เราสามารถเลือกปรับให้ตรงความต้องการของตนเองได้ ที่บางจากฯ นี่ดูแลพนักงานดีครอบคลุมหลายด้าน อย่างเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ใครจะคิดว่าการรับประทานข้าวมื้อหนึ่ง แบบกับข้าว 2 อย่าง จะจ่ายแค่ราคา 25 บาทเท่านั้นเพราะบริษัทช่วยอุดหนุนให้ "25 บาทในสุขุมวิท มันมีอยู่จริง! ที่บ้านบางจาก ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ?"

และในวันที่ผลงาน Project startup ของพลอยและกลุ่ม ผ่านเข้ารอบนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูง ในขณะนั้นพลอยเป็นพนักงานใหม่ที่อายุงานเพียง 3 เดือนเท่านั้น
ความร่มรื่นในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันบางจาก และจักรยานคู่ใจ

สำหรับเธอ การได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ทำให้มีความสุข "พลอยคิดว่า การทำงานในทุกวันก็เหมือนการเล่นเกมที่เราต้องสนุกกับมัน เกมที่เราแข่งกับตัวเอง พอเราเล่นชนะในแต่ละวันเสร็จแล้ว มันก็ทำให้อยากเล่นต่อ และสุดท้ายงานที่เราทำผลลัพธ์ของมันก็ไปถึงองค์กรและงานได้ด้วย เราทุกคนสามารถทำให้เกิดประโยชน์แก่บ้านของเรา บ้านบางจากหลังนี้ที่เราทุกคนภูมิใจในการเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำคนไทยที่มีชื่อเสียง มีความมั่นคง จากมุมของคนภายนอก ภาพของความรับผิดชอบต่อสังคมของเราโดดเด่น และเราเองซึ่งเป็นคนใน เรายิ่งรู้ลึกในสิ่งที่เราทำจริง และนอกจากจะเป็นบ้าน พลอยก็อยากเทียบบางจากฯ เป็นคนด้วยนะ บางจากฯ เป็นคนดีคนหนึ่งซึ่งทำทุกอย่างจากใจ ทำแต่สิ่งที่เกิดคุณค่า ทำให้พลอยรู้สึกว่าตนเองโชคดีและภูมิใจที่ได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านบางจาก บ้านที่ทำให้รู้สึกว่า การทำงานเป็นเรื่องเท่ได้ในทุกวัน