EN

23 กรกฎาคม 2564

บาริสต้า

อาชีพที่มากกว่า..คนชงกาแฟ

ในอดีตคนไทยไม่นิยมการดื่มกาแฟ ส่วนมากนิยมการเคี้ยวเมี่ยงหรือดื่มน้ำชามากกว่า การดื่มกาแฟจะเป็นที่นิยม ในกลุ่มชนน้อย เช่น ชาวจีนในภาคใต้ที่รับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ หรือ โกปี้ จากมาลายู ที่ดื่มเพื่อการสังสรรค์ พบปะกันในชุมชน ซึ่งวัฒนธรรมการดื่มกาแฟไทยเกิดขึ้นในภายหลัง พร้อมกับการพัฒนาเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ วัฒนธรรมกาแฟเติบโตเป็นอย่างมาก มีการนำลักษณะการดื่มกาแฟของตะวันตก โดยเฉพาะประเทศอิตาลี มาปรับให้เข้ากับตลาดไทย จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนคุ้นเคยในปัจจุบัน และ ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเมนู เช่น “เอสเพรสโซ” “คาปูชิโน” “ลาเต้” รวมทั้งชื่อเรียกอาชีพที่เกี่ยวกับการเตรียมและเสิร์ฟกาแฟชนิดต่างๆ ให้ลูกค้า และมีความสามารถในการใช้งานเครื่องทำกาแฟเอสเพรสโซ อย่าง “บาริสต้า” หรือนักชงกาแฟก็มีรากศัพท์จากภาษาอิตาเลียนเช่นกัน

ปัจจุบัน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ก่อให้เกิดความคาดหวังของผู้บริโภคในเรื่องของมาตรฐานรสชาติ บรรยากาศในร้านและบริการที่ดึงดูดใจ รูปแบบร้านกาแฟที่เป็นมากกว่าร้านกาแฟ ในขณะที่เจ้าของ แบรนด์กาแฟต่างก็มีการพัฒนาปรับตัวในการให้บริการเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทุกๆ วันนี้

ร้านกาแฟอินทนิล เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีการวาง position ชัดเจนภายใต้จุดยืนของบางจากที่เน้นความสำคัญ ในการร่วม “รักษ์โลก” ดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมดูแลสุขภาพควบคู่กันไป ปลุกสำนึกคนรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่แค่รักกาแฟ แต่ต้องช่วยกันดูแลโลกใบนี้ การปรับใช้บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ การรณรงค์ งดใช้หลอดเพื่อลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เป็นต้น ภายใต้คอนเซ็ปต์การเป็น “ร้านกาแฟสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ตอกย้ำจุดยืนผู้นำ ECO BRAND ตลาดกาแฟในประเทศไทย

อั๋น - อัญธิกา พันโท บาริสต้าในร้านกาแฟอินทนิล สาขาเอ็ม ทาวเวอร์ บอกว่า ปกติไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ แต่หลงรักการไปคาเฟ่ ชอบถ่ายรูปคาเฟ่สวยๆ แล้วก็ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง จะได้มาเป็นคนชงกาแฟเอง ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากอาชีพนี้ และได้ค้นพบความฝันของตัวเอง

“เริ่มงานแรกๆ อั๋นทำหน้าที่แคชเชียร์ประจำร้านกาแฟอินทนิล ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ทำกาแฟให้ลูกค้า จนเมื่อบริษัทส่งไปฝึกอบรมเรียนชงกาแฟ ถึงได้เรียนรู้ว่ากาแฟที่เราดื่มทั่วไปนั้น มีหลายชื่อหลายชนิดที่ต้องเรียนรู้ มีความละเอียดอ่อนหลายอย่าง ตั้งแต่รสชาติของกาแฟแต่ละแบบ วิธีการชง ชนิดของเมล็ดกาแฟ วิธีการคั่ว รู้จักวิธีการใช้เครื่องชงกาแฟ หรือแม้แต่อุณหภูมิของน้ำก็มีผลต่อรสชาติกาแฟที่ชงออกมา พอจบหลักสูตรจึงได้มาเรียนรู้ ทดลองงานการเป็นบาริสต้าที่ร้านประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนจะได้เริ่มเป็นบาริสต้าเตรียมเครื่องดื่มแก้วแรกให้ลูกค้า แก้วแรกที่อั๋นชงให้ลูกค้าคืออเมริกาโน่เย็น ตื่นเต้นมาก คอยแอบลุ้นว่าลูกค้าจะชอบไหม เพราะ เป้าหมายคือต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคน”

เกือบ 4 ปีที่เป็นบาริสต้า อยากบอกทุกคนว่าการเป็นบาริสต้านั้นเป็นมากกว่าคนชงกาแฟ ทำทุกอย่างภายในร้าน ตั้งแต่เป็นคนชงกาแฟ นักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า นักประชาสัมพันธ์ พนักงานทำความสะอาด หรือที่ขาดไม่ได้เลยคือเป็นช่างภาพที่คอยถ่ายรูปให้ลูกค้า อั๋นตั้งเป้าว่าจะต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคน เช่น จำเมนูโปรดของลูกค้าแต่ละคนที่เข้ามาใช้บริการ ทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก และเมื่อวันที่ลูกค้าจำชื่อเราได้ นอกเหนือจากที่เราจำชื่อลูกค้าด้วยนั้น ทำให้อั๋นมีความสุขในการทำงานมากๆ และยิ่งอยากเป็นบาริสต้าที่ดีให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

‘เป้าหมาย’ คือต้องสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกคน
และนอกจากเราจำชื่อลูกค้าได้แล้ว หากลูกค้า
จำชื่อเราได้ด้วย นั่นคือ ‘ความสุข’

กาแฟที่ร้านอินทนิลเป็นกาแฟออร์แกนิก "อาราบิก้าแท้ 100%" ลูกค้าส่วนใหญ่เน้นเรื่องสุขภาพ ไม่ค่อยกินหวาน ซึ่งก็จะตรงกับกลุ่มเป้าหมายของร้าน นอกจากกาแฟแล้วยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบ เมนูที่ขายดีที่สุดของสาขาที่อั๋นประจำอยู่คืออเมริกาโน่เย็น โกโก้เย็น หอมมันเข้มข้นหวานน้อย แฟนพันธุ์แท้โกโก้อินทนิลเยอะมากๆ และพรีเมียมมัทฉะที่หอม เข้มข้น กลมกล่อม

‘พรีเมี่ยมมัทฉะ’ หนึ่งในเมนูขายดี ที่อั๋นเองก็ชอบ

อั๋นภูมิใจทุกครั้งที่มีคนเรียกเธอว่าบาริสต้า ยิ่งเป็นการย้ำว่าเธอต้องเป็นคนส่งมอบเครื่องดื่มแก้วที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกคน และเมื่อได้มีโอกาสไปคาเฟ่หรือร้านกาแฟที่อื่น ได้เห็นบาริสต้าก็เหมือนได้มองเห็นตัวเอง สะท้อนตัวเองในบทบาทนั้น ทำให้ได้จดจำสิ่งที่ดีกลับมาพัฒนาในงานของตัวเองต่อไป “รักแบรนด์อินทนิลนะ ที่ภูมิใจมากที่สุดคืออินทนิลเป็นร้านกาแฟเพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ชื่อว่าเป็น ECO BRAND แรกๆ ของไทยเลย อย่าง แก้วเครื่องดื่มที่ใช้ก็เป็นแก้วไบโอผลิตจากพืช 100% ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนฝาใหม่ งดใช้หลอด แถมยังมีโครงการรวบรวมแก้วพวกนี้ไปมอบให้กรมป่าไม้ เพื่อการเพาะต้นกล้าอีกด้วย ในช่วงก่อน โควิด อินทนิลก็มีนโยบายที่มอบส่วนลดให้กับลูกค้าทุกคนที่นำแก้วมาเอง ลูกค้าที่เป็นกลุ่มรักษ์โลกเขาก็ชอบกันมาก เพราะอินทนิลเป็นร้านกาแฟแรกๆ ที่ริเริ่มโครงการแบบนี้และทำมาโดยตลอด ดีใจที่ได้เป็นคนแนะนำการใช้ฝายกดื่มโดยไม่ต้องใช้หลอดให้กับลูกค้า มันเป็นอะไรที่รู้สึก “ว้าว” อ่ะค่ะ”

อั๋นผูกพันกับร้านอินทนิลจนรู้สึกเหมือนเป็นร้านของตัวเอง ความผูกพันนั้นรวมไปถึงเพื่อนร่วมงานและกับลูกค้าที่พบเจอกันทุกวันจนเหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง มีความเป็นกันเองเหมือนครอบครัวเดียวกัน “อั๋นไม่เคยคิดที่จะไปทำงานที่อื่น และถ้าถามอั๋นว่าอั๋นฝันอะไรไว้ในชีวิต อั๋นก็จะตอบว่าถ้ามีโอกาส อั๋นก็ฝันอยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ สักร้าน และร้านนั้นจะต้องเป็นแบรนด์ “อินทนิล” อย่างแน่นอนค่ะ”