01 เมษายน 2565
Niche Products Refinery
“คิดต่าง” จนเป็นมากกว่าโรงกลั่นน้ำมัน
มากกว่าการกลั่นน้ำมัน คือ การผลิตผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาดหรือลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ หรือที่เรียกว่า “Niche Products” วันนี้แนวคิดนี้ ตอบโจทย์สถานการณ์การใช้น้ำมันสำหรับการขนส่ง (Transportation Fuel) ที่ลดลง และน้ำมันอากาศยานที่ชะงักงันไปจากสถานการณ์โควิด-19
กัณฑมาศ กฤตยานุกูล หรือ พี่ฟ้า ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์และพัฒนาธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าย้อนให้ฟังถึงหนึ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด เมื่อธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันฯ ในวันนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากเดิมที่เน้นกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการและเต็มกำลังการผลิตเท่านั้น
ถอดบทเรียนความสำเร็จ “คิดนอกกรอบ” ในโรงกลั่นบางจาก
“ประมาณ 2 ปีที่แล้ว เมื่อเกิดทั้งผลกระทบอย่างฉับพลันจากโควิด-19 และปัจจัยในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้พนักงานในโรงกลั่นต้องหันมาร่วมแรงร่วมใจกัน เริ่มตั้งใจสร้างทัศนคติแบบ Can-do attitude หรือทัศนคติเรา “ทำได้” ร่วมกัน ซึ่งเกิดขึ้นในใจก่อนลงมือทำเสมอ ตั้งแต่พนักงานและผู้บริหารทุกระดับ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวันนั้น”
กัณฑมาศ กล่าวต่อว่า ในความที่โรงกลั่นบางจาก เป็นโรงกลั่นที่มีขนาดเล็ก ที่หลาย ๆ คนคิดว่าเป็นข้อจำกัด แต่สำหรับบางจากฯ มองเป็นความได้เปรียบ ด้านความคล่องตัว (Flexible) ความยืดหยุ่น (Resilience) ทำให้เราก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง วันนี้แนวคิดนี้ถูกนำมาใช้เป็นกระบวนการดำเนินงานของโรงกลั่น เกิดเป็นโครงการต่าง ๆ ที่มีความมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของกระบวนการทำงานขององค์กรตลอดทั้งระบบ หรือ Business Process Redesign (BPR) ซึ่งสร้างรายได้กว่า 1,300 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา
“ความท้าทายหลักของโรงกลั่นบางจาก คือ การเข้าให้ถึงลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะกลุ่ม และตอบโจทย์ความต้องการผ่านกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพเกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง โดยใช้จุดแข็งที่มี การทำงานร่วมกันหลายฝ่าย ทั้งทีมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อหาความต้องการ หาตลาด ที่ลงตัวกับศักยภาพของหน่วยกลั่น และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีข้อได้เปรียบทางการตลาด”
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การสร้าง Niche Products ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการปรับตัวของโรงกลั่นบางจาก จากข้อได้เปรียบในการเข้าถึงน้ำมันดิบคุณภาพดีที่คัดสรรมาตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำโดยทีมวางแผนจัดหาน้ำมัน จนเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ น้ำมันเตากำมะถันต่ำ ส่งออกไปเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในต่างประเทศ ด้วยแรงหนุนสำคัญจาก Hydrocracking หน่วยกลั่นเทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถผลิตน้ำมันดีเซล พรีเมียมซีเทนสูง ให้พลังที่เหนือกว่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โดยมีผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ คือ Unconverted Oil หรือ UCO ที่ใช้ในการผลิตน้ำมันหล่อลื่น เพื่อใช้กับเครื่องยนต์หรือเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และแว็กซ์ (Wax) สำหรับงานเคลือบบรรจุภัณฑ์ที่มีความต้องการสูงขึ้นในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีสารทำละลาย (Solvent) ในชื่อ BS 40 สำหรับใช้ในการผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมสี ทินเนอร์ ที่มีองค์ประกอบของสารก่อมะเร็ง (Aromatics) ต่ำ เป็นรายแรกของประเทศ สอดคล้องกับเทรนด์สุขภาพที่กำลังมา และผลิตภัณฑ์ LPG ไร้กลิ่นอัดกระป๋องที่ตอบโจทย์ลูกค้าสายรักธรรมชาติ (Camping)
ค้นพบโลกใหม่แห่งโอกาส พร้อมพัฒนาเต็มกำลัง
เมื่อเทคโนโลยีการกลั่นระดับพรีเมียม ผสานกำลังกับวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม และทีมงานชั้นยอด ที่ร่วมแรงร่วมใจกัน คิดต่าง ปรับตัวรับกับความเปลี่ยนแปลงจนนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ทำให้ในปี 2564 ที่ผ่านมา โรงกลั่นบางจากมียอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ UCO กว่า 515 ล้านลิตร หรือเติบโตกว่า 10 เท่าจาก จุดเริ่มต้นในปี 2558 โดยปริมาณการจำหน่าย UCO ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ และมีการตั้งเป้าหมายเร่งเพิ่มกำลังการผลิต UCO อย่างก้าวกระโดดเป็น 1,000 ล้านลิตรในปี 2566
การดำเนินธุรกิจ Niche Products ยังคงไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบการทำงานเพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น สารทำละลาย (Solvent) และนวัตกรรมการผลิต Sustainable Aviation Fuel (SAF) หรือเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน ซึ่งต่อยอดจากงานวิจัยของ สำนักงานวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ดำเนินการศึกษา วิจัย และพัฒนาเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพคาร์บอนต่ำ ให้เกิดการใช้งานระดับนำร่องร่วมกับกองทัพอากาศ และพัฒนาระดับเชิงพาณิชย์ต่อไป
Niche Products เป็น Green Products
เพราะเป็นการนำกำลังการผลิตเดิมมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีคาร์บอนต่ำ ลดการเผาไหม้และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตอบโจทย์ Green Products ในโรงกลั่น บนเส้นทางนวัตกรรมสีเขียว
“Niche Products ยังถือว่าเป็น Green Products ของโรงกลั่นฯ เพราะเป็นการนำเอากำลังการผลิตเดิมมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่มีคาร์บอนต่ำ ลดการเผาไหม้ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อย่าง UCO ยังใช้พลังงานในการผลิตต่ำ ส่วนหน่วยกลั่น Hydrocracking ก็ถูกออกแบบมาให้มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าที่สุด และวัตถุดิบน้ำมันที่ใช้มีคุณภาพดีจนไม่ต้องใช้พลังงานสูงในการผลิตให้ได้มาตรฐาน ตัวเร่งปฏิกิริยาเสื่อมสภาพช้า จึงช่วยยืดอายุหน่วยกลั่น ขยายระยะเวลาซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่น (Turnaround) ได้นานกว่าเดิม ส่งผลดีต่อกลุ่มบางจากฯ ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในหลายแง่มุม ทั้งหมดยังตอบโจทย์เป้าหมายการมุ่งสู่ NET ZERO GHG EMISSION อีกด้วย” กัณฑมาศ กล่าวเสริม
Niche Products โดยโรงกลั่นบางจาก เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การพร้อมปรับเปลี่ยนในทุกสถานการณ์และการไม่หยุดที่จะคิดต่าง จะช่วยสร้างโอกาสธุรกิจให้ได้ ภายใต้ความรับผิดชอบต่อสังคม แม้ในภาวะวิกฤตก็ตาม