02 กันยายน 2565
Digital Organization ใน “บ้านบางจาก”
ขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนผ่านด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี
“เมื่อโลกแห่งเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกสิ่งรอบตัว และวันนี้ “Data is the New Oil” ข้อมูลกลายมาเป็นทรัพยากรที่มีค่าเปรียบได้กับการครอบครองแหล่งผลิตน้ำมัน และยังเป็นพื้นฐานหลักในการผลักดันเศรษฐกิจยุคดิจิทัล บางจาก คอร์ปอเรชั่นฯ เองในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ตระหนักดีถึงจุดที่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น สำคัญคือเราปรับตัวและตั้งรับได้มากน้อยแค่ไหน”
โชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น ขยายความถึงจุดเริ่มต้นสู่การเป็น Digital Organization ภายใน “บ้านบางจาก” ว่า เมื่อมองเห็นแนวโน้มเรื่องเทคโนโลยีและดิจิทัล บางจากฯ จึงเริ่มกระบวนการ Digital Transformation ภายในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรมในช่วง 3-4 ที่ผ่านมา เป็นจังหวะก่อนที่ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์โควิด จากเดิมที่เราตั้งใจที่จะ transform ตัวเองอยู่แล้ว ทำให้มีการเตรียมพร้อมบางอย่างไว้ล่วงหน้า กลายเป็นว่าโควิดช่วยกระตุ้นให้ทุกอย่างมันเกิดเร็วขึ้น ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนให้หันมาลองใช้งานสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น “ดิจิทัลเทคโนโลยีมีประโยชน์ในหลายมุม เช่น สามารถเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การหันมาใช้ e-signature ซึ่งส่วนช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ลดการใช้กระดาษ พอเริ่มใช้ในองค์กรกันจนชินก็ขยายไปที่คู่ค้า การพัฒนาบริการ cashless payment ในสถานีบริการด้วยเช่นกันเพื่อลดการสัมผัส การปรับอุณหภูมิอาคารสำนักงานให้สอดคล้องกับสภาพอากาศภายนอกด้วยเซนเซอร์ ช่วยให้การใช้พลังงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ด้วย เรียกได้ว่าเทคโนโลยีทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย”
“ดิจิทัลเทคโนโลยีมีประโยชน์ในหลายมุม เช่น สามารถเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การหันมาใช้ e-signature ซึ่งส่วนช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ลดการใช้กระดาษ พอเริ่มใช้ในองค์กรกันจนชินก็ขยายไปที่คู่ค้า การพัฒนาบริการ cashless payment ในสถานีบริการด้วยเช่นกันเพื่อลดการสัมผัส การปรับอุณหภูมิอาคารสำนักงานให้สอดคล้องกับสภาพอากาศภายนอกด้วยเซนเซอร์ ช่วยให้การใช้พลังงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ด้วย เรียกได้ว่าเทคโนโลยีทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย”
เบื้องหลังการขับเคลื่อน Digital Organization
สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อน Digital Organization ในองค์กรที่ดำเนินงานมายาวนานเกือบ 4 ทศวรรษนั้น โจทย์สำคัญคือการสร้าง mindset ให้พนักงานอยากจะเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องและนำมาใช้ประโยชน์เพื่อปรับปรุงวิธีการทำงานให้ดีขึ้น ลดความผิดพลาด ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม RPA, Power BI, และ Power App เป้าหมายคือทำให้เป็น Automation ให้มากที่สุด เพื่อให้พนักงานเอาเวลาไปทำสิ่งที่ต้องการโฟกัสมากขึ้น และต่อยอดจัดเป็น Digital Contest ภายในให้พนักงานนำเอาความรู้มาลองทำจริงโดยมีฝ่ายไอทีช่วยเป็นพี่เลี้ยง ส่วนในด้านการตลาดนั้นมีการใช้ข้อมูลทั้งลูกค้าสถานีบริการและลูกค้าสมาชิกบัตรบางจาก มาศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้ตรงใจลูกค้า
ความท้าทายคือในโลกยุคดิจิทัลยังมีอะไรให้ทำอีกมาก ต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ สร้างการรับรู้เป็นวงกว้างใน ทุกส่วนงาน ให้เกิดความร่วมมือร่วมใจกัน นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ ตอบโจทย์องค์กร และยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และโลกที่ยั่งยืน
“อีกหนึ่งความท้าทายคือความเสี่ยงหรืออันตรายที่อาจมาพร้อมกับเทคโนโลยี อย่างที่เห็นอยู่บ่อย ๆ เรื่องการหลอกลวงผ่านทางออนไลน์ หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ ทำให้ผู้คนมีความกังวล แต่บางจากฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เพื่อดูแลและปกป้องข้อมูลของลูกค้าและพนักงานมาโดยตลอด รวมถึง การดำเนินงานบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีสมดุล ตามหลักกฎหมาย PDPA หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างสอดประสานภายในองค์กร เช่น นอกจากบางจากฯ จะลงทุนกับระบบการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา และสร้าง Awareness ให้เกิดความเท่าทันต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์แก่พนักงานแล้ว ในกระบวนการทำงานที่ต้องมีคู่ค้ามาเกี่ยวข้องนั้นก็สำคัญด้วยว่าคู่ค้าจะต้องผ่านการคัดสรรว่ามีระบบการดูแลการรั่วไหลของข้อมูลที่ดีเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล”
เปลี่ยนผ่านกระบวนการทำงาน ตอบโจทย์ลูกค้า และสร้าง Ecosystem ใหม่ ๆ
บนเส้นทางของ Digital Organization และ Digital Business Transformation ใน “บ้านบางจาก” แห่งนี้ กำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมายของการนำเอาเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไว้ 3 ระดับ ภายใน 3-5 ปีจากนี้ อย่างแรกเลยคือ เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน จาก Automation ต่อยอดไปสู่ Hyper Automation คือการทำงานระหว่าง Automation ที่เชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยี Machine Learning และ AI เปรียบเหมือนมีคนช่วยคิดเพิ่มเติม จากเดิมที่แค่นำเทคโนโลยีมาช่วยทำงานแทนคน ในงานที่มีขั้นตอนรูปแบบซ้ำๆ ก็สามารถตัดสินใจบางอย่างจากข้อมูลที่รวบรวมไว้ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นอีก
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ระดับที่สอง คือ การใช้เทคโนโลยี IOT และนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การซ่อมบำรุงเครื่องจักร (Predictive maintenance) และการบริหารโลจิสติกส์ รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าในแบบ Greenovative Experience ที่เสริมด้วยการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำและกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และระดับที่สาม คือ การเชื่อมโยงกับพันธมิตรให้เกิดเป็น Ecosystem ที่พร้อมผลักดันไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่ ๆ โดยการนำ Digital มาช่วยสร้างมูลค่าและการเติบโตให้องค์กร (Data Monetization) ซึ่งการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ดาต้า คาเฟ่ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจทุกรูปแบบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ของกลุ่มบริษัทบางจาก จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการนำเอาดาต้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้กับธุรกิจได้
การผลักดันองค์กรมุ่งสู่ดิจิทัล ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สร้างประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้เสียได้ทั้งลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ตลอดจนพนักงาน ทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน